“โรคภูมิแพ้” คือโรคที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีอาการไวผิดปกติต่อสิ่งที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ ซึ่งโรคภูมิแพ้ไม่ใช่โรคติดต่อ แต่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ดังนั้นโรคภูมิแพ้จึงสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย สำหรับอาการของผู้ป่วยโรคนี้แต่ละคนจะมีความแตกต่างและรุนแรงไม่เท่ากัน เนื่องจากชนิดของสารก่อภูมิแพ้ที่ได้รับ และการตอบสนองของร่างกายแต่ละบุคคล
โดย สารก่อภูมิแพ้ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- สารก่อภูมิแพ้ในสิ่งแวดล้อมและอากาศ เช่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ ละอองเกสร แมลงสาบ เชื้อรา ฯลฯ
- สารก่อภูมิแพ้ประเภทอาหาร เช่น นม ไข่ ถั่ว แป้งสาลี อาหารทะเล ฯลฯ
โรคภูมิแพ้มีหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ภูมิแพ้ทางระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ทางผิวหนัง ภูมิแพ้ทางตา ภูมิแพ้แบบรุนแรงอาจถึงช็อคได้ (เรียกว่าภาวะช็อคจากภูมิแพ้) ชนิดภูมิแพ้ที่คนเป็นมากที่สุด นั่นก็คือ ภูมิแพ้ทางจมูก ซึ่งพบในคนไทยวัยผู้ใหญ่เพียง 20% แต่พบในวัยเด็กถึง 40% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากกว่า 5 ปีก่อนราว 1 เท่าตัว ดังนั้นหากประมาณจากประชากรไทยทั้งประเทศ เชื่อว่ามีคนไทยกว่า 10 ล้านคน ที่เป็นโรคภูมิแพ้ทางจมูก
สาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้
- กรรมพันธุ์
- การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
- ไม่ออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และเกิดการติดเชื้อได้ง่าย
- รับประทานอาหารจานด่วนมากขึ้น ทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน
- มลภาวะจากอุตสาหกรรม การจราจร และการสูบบุหรี่
- การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในบ้าน การตกแต่งบ้านด้วยการปูพรม ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นละออง และการติดเครื่องปรับอากาศ ทำให้เชื้อไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ดี
AdvertisementReplay Ad
วิธีการป้องกันจากโรคภูมิแพ้
- ควรนำเครื่องนอนออกไปโดนแสงแดดทุก 15 วัน
- เปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้ามาในห้อง
- ทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศแอร์ ใบพัดลม และพรมทุกสัปดาห์ เพราะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและไรฝุ่น
- กรณีแพ้ขนสุนัขหรือขนแมว ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัส ไม่เลี้ยงสุนัขหรือแมวไว้ในบ้าน
- ทำความสะอาดบ้านเรือนให้สะอาด ไม่อับชื้น ปราศจากเศษอาหาร
- หลีกเลี่ยงและอยู่ห่างไกลจากฝุ่นละออง ควันรถยนต์ ควันก๊าซจากโรงงาน ควันบุหรี่
- ระวังอาหารที่อาจก่อให้เกิดการแพ้ได้ง่าย เช่น กุ้ง ปู หอยทะเลต่าง ๆ
- หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงขึ้น