วัยทองเป็นวัยที่หมดประจำเดือน ในช่วงนี้ร่างกายของผู้หญิงจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเจริญพันธ์ลดลง ซึ่งจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนั้น จะส่งผลให้ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายเช่น ปัญหาการนอนหลับ ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารนั้นสามารถช่วยให้อาการของวัยทองดีขึ้นได้ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารรูปแบบคีโตนั้นมีส่วนช่วยได้มาก
การรับประทานอาหารแบบ คีโต (Keto Diet) คืออะไร
การรับประทานอาหารแบบ คีโต หรือ คีโตเจนิค ไดเอต (Ketogenic Diet) เป็นการรับประทานอาหารที่ที่ลดคาร์โบไฮเดรต หากต้องรับประทานคาร์โบไฮเดรตก็จะรับประทานในปริมาณที่ต่ำมากๆ และแทนที่ด้วยการรับประทานไขมันดีเข้าไปแทน
ซึ่งการรับประทานรูปแบบนี้จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า ภาวะคีโตซิส ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายจะดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน และเปลี่ยนไขมันไปเป็นคีโตในตับ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของสมอง ซึ่งการรับประทานอาหารรูปแบบคีโตนั้นจะช่วยให้น้ำตาลในเลือดและอินซูลินลดลงอย่างมาก และยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างอื่นอีกมากมาย
ประโยชน์ดีๆ ของ คีโตเจนิค
- บรรเทาอาการวัยทอง ช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลิน
วัยทอง เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเพศ เช่น เอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเหล่านี้ทำให้ความสามารถในการควบคุมอินซูลินของร่างกายลดลง มีงานวิจัยที่บ่งบอกว่าการรับประทานอาหารแบบคีโตช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินของร่างกาย ทำให้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี จากการวิจัยพบว่า การรับประทานอาหารแบบคีโต นาน 12 สัปดาห์ สามารถช่วยให้ร่างกายควบคุมระดับอินซูลินได้ดีขึ้น
- ช่วยควบคุมน้ำหนัก
การที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นนั้น เป็นหนึ่งในอาการของวัยทอง ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และการเผาผลาญร่างกายที่ช้าลง จากงานวิจัยบ่งบอกว่า การลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตนั้นช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ถึงแม้ว่าการรับประทานแบบคีโตจะเน้นการบริโภคไขมันเป็นส่วนใหญ่ แต่เมื่อร่างกายเข้าสู่ภาวะ คีโตซิส (Ketosis) ร่างกายก็จะดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงาน จึงทำให้น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้น
- ช่วยลดความอยากอาหาร
ผู้หญิงหลายๆ คนที่เข้าสู่ช่วงวัยทอง มักจะมีอาการหิวบ่อยๆ แต่จากการศึกษาหลายๆ ชิ้นนั้นชี้ว่า การรับประทานอาหารแบบคีโตนั้นช่วยลดความหิวและความอยากอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อยู่ในวัยทอง นอกจากนี้ยังมีการศึกษาชิ้นอื่นที่ให้ผู้หญิงจำนวน 95 คน รับประทานอาหารแบบคีโตนาน 9 สัปดาห์ พบว่า ฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ในการควบคุมความอยากอาหารนั้นทำงานได้ดีขึ้น ทำให้ผู้หญิงที่รับประทานอาหารแบบคีโตมีความอยากอาหารน้อยลง
ผลข้างเคียงของการรับประทานอาหารรูปแบบคีโตเจนิค
การรับประทานอาหารแบบคีโต เป็นรูปแบบการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีข้อควรระวัง การรับประทานอาหารแบบคีโตนั้นช่วยทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลและเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์มีการเปลี่ยนแปลงไป และอาจส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ สำหรับผู้หญิงบางคนอาจเกิดอาการไข้คีโต (Keto Flu) ซึ่งเป็นอาการที่ร่างกายได้รับน้ำตาลน้อยลง ซึ่งบางคนที่ก่อนหน้านี้มีการรับประทานน้ำตาลทุกวัน เมื่อเปลี่ยนมารับประทานอาหารแบบคีโตก็จะทำให้ร่างกายมีอาการขาดน้ำตาล เหมือนอาการถอนยา ซึ่งไข้คีโตนั้นจะส่งผลทำให้อาการบางอย่างของวัยทองแย่ลง เช่น ความเหนื่อยล้า ผมร่วง และความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.sanook.com/