โรคเบาหวานถือเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ทุกคนรู้จักกันดี ซึ่งมีข้อมูลจาก CDC ระบุว่า ชาวอเมริกันมากกว่า 30 ล้านคน ป่วยเป็นโรคเบาหวานประเภท 1 หรือโรคเบาหวานประเภท 2 ซึ่งคิดเป็นประมาณ 10 % ของจำนวนประชากรทั้งหมด และมีคนกว่า 1 ใน 4 ที่ไม่รู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคเบาหวาน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณมีอายุน้อย ไม่อ้วน หรือไม่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคดังกล่าว แต่คุณก็ยังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานอยู่ดี วันนี้เราจึงได้รวบรวมหลากสัญญาณเตือนจากโรคเบาหวานมาฝาก แต่จะมีอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูพร้อมกันเลยค่ะ
1. เป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
หากคุณป่วยเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หรือเป็นโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการติดเชื้อภายในช่องคลอดบ่อยครั้ง มันก็อาจเป็นสัญญาณเตือนจากโรคเบาหวาน “ ระดับของน้ำตาลในเลือดที่สูงจะไปสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการติดเชื้อมากขึ้น ” กล่าวโดย Daniel Hsia ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการวิจัยของ PBRC นอกจากนี้เขายังเตือนให้ระวังการติดเชื้อราที่เกิดจากยีสต์ ซึ่งกินน้ำตาลเป็นอาหาร ดังนั้นพวกมันจึงมีแนวโน้มที่จะเจริญเติบโตเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นแพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
2. กระหายน้ำมากอย่างต่อเนื่อง
คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานมักมีอาการกระหายน้ำมาก เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ปริมาณของโซเดียมในเลือดมีแนวโน้มที่จะลดลง ซึ่งโซเดียมเป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายอุ้มน้ำไว้ ดังนั้นหากธาตุชนิดนี้ลดลง มันก็จะทำให้คุณกระหายน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้การดื่มน้ำจะช่วยแก้ปัญหาได้ชั่วคราว แต่ถ้าคุณรู้สึกหิวน้ำมากกว่าที่เคย ทั้งๆ ที่คุณก็ดื่มน้ำจำนวนเท่าเดิม ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นสัญญาณเตือนจากโรคเบาหวานค่ะ
3. สายตาเปลี่ยนไป
กลูโคสในเลือดสามารถเข้าไปในเลนส์ของดวงตา และทำให้การมองเห็นเปลี่ยนไปจากเดิม ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมองเห็นภาพไม่ชัด และคิดว่าตัวเองต้องตัดแว่นใหม่ แต่เมื่อน้ำตาลในเลือดลดลง อาการดังกล่าวก็จะหายไป ดังนั้นอย่าชะล่าใจคิดว่ามันเป็นปัญหาสายตาทั่วไป เพราะบางทีมันอาจเป็นหนึ่งในอาการของโรคเบาหวานค่ะ
4. ปัสสาวะบ่อย
อาการปัสสาวะบ่อยมักเกิดขึ้นร่วมกับภาวะขาดน้ำ เพราะระดับน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นทำให้ระดับโซเดียมในเลือดลดลง ร่างกายจะพยายามรักษาความชุ่มชื้น ต่อให้คุณดื่มน้ำเป็นปริมาณมาก ร่างกายจะไม่กักเก็บน้ำเอาไว้ แต่มันจะขับปัสสาวะออกมาเป็นปริมาณมากแทนค่ะ
5. สมองตื้อ
การเกิดภาวะขาดน้ำสามารถนำไปสู่ความคิดที่ยุ่งเหยิงหรือสับสน แต่มีงานวิจัยเมื่อไม่นานมานี้จาก Harvard Medical School พบว่า ระดับน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้หลอดเลือดในสมองมีความอ่อนตัวน้อยลง ส่งผลให้ออกซิเจนถูกส่งไปยังสมองลดลง ทำให้เกิดการอักเสบ และสามารถนำไปสู่การเกิดภาวะสมองตื้อได้ในที่สุด
6. รู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
นอกจากการเกิดความรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลาสามารถเกิดจากการที่ร่างกายขาดน้ำแล้ว การที่ระดับน้ำตาลในเลือดมีความผันผวนมากในผู้ป่วยโรคเบาหวานก็สามารถทำให้เกิดอาการดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งมีงานวิจัยจาก The University of Illinois เมื่อปี ค.ศ. 2011 พบว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับอย่างโรคขาอยู่ไม่สุข (Restless-leg syndrome) มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นในผู้ป่วยโรคเบาหวาน มันจึงอธิบายได้ว่าทำไมผู้ป่วยโรคเบาหวานมักจะมีอาการเหนื่อยมาก
7. ไม่สามารถควบคุมความหิวกระหายได้
การเป็นโรคเบาหวานจะไปจำกัดความสามารถในการกำจัดน้ำตาลออกจากกระแสเลือดและเซลล์ของร่างกาย ซึ่งเป็นบริเวณที่น้ำตาลถูกเก็บไว้และถูกนำมาใช้เป็นพลังงาน เมื่อร่างกายไม่ได้รับพลังงานอย่างเพียงพอ ผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงอาจรับประทานอาหารจุ หรือเกิดความรู้สึกหิวกระหายแทบตลอดเวลา
8. แผลหายช้า
มีงานวิจัยจาก Journal of Clinical Investigation พบว่า หากคุณมีปัญหาน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะยาว คุณก็อาจมีปัญหากับกระบวนการเยียวยาบาดแผล ทั้งนี้โรคเบาหวานสามารถทำให้เลือดไหลไปยังแขนหรือขาน้อยลง ซึ่งจะทำให้แผลหายช้า นอกจากนี้งานวิจัยข้างต้นยังชี้ให้เห็นว่า ระดับน้ำตาลในเลือดที่เปลี่ยนไปเนื่องจากโรคเบาหวานสามารถทำให้การสื่อสารระหว่างเซลล์ และการผลัดเซลล์แย่ลง ซึ่งล้วนแต่มีผลต่อการรักษาบาดแผล
หากคุณพบว่าตัวเองมีอาการตามที่เรากล่าวไปล่ะก็ คุณก็ไม่ควรมองข้าม และไปตรวจที่โรงพยาบาล เพราะหากแพทย์วินิจฉัยว่าคุณเป็นโรคดังกล่าวได้เร็ว คุณก็จะได้รีบดูแลตัวเองก่อนที่อาการจะแย่ลงกว่าเดิมค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูล:honestdocs.co