HIV ย่อมาจาก Human Immunodeficiency Virus ไวรัสนี้จะไปทำลายเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน คือ ระบบที่ทำหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคภายนอกร่างกาย โดยเชื้อไวรัสนี้ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายจะติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่าย และอาจเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้
H = Human หรือ มนุษย์ ได้แก่ ผู้ที่ติดโรคร้ายนี้
I = Immunodeficiency หรือ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นโรคที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันในตัวคน
V = Virus ไวรัส ได้แก่ เชื้อโรคที่ทำให้เราเจ็บป่วย และทำให้ร่างกานอ่อนแอ อ่อนเพลีย
เอดส์ (AIDS) ย่อมาจาก Acquired Immune Deficiency Syndrome คือ โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสของ HIV ที่ไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของเรา คุณจะเป็นโรคเอดส์ก็ต่อเมื่อคุณติดเชื้อที่อันตรายร้ายแรง หรือ ในขณะที่คุณมีปริมาณเม็ดเลือดขาวต่ำ เอดส์คือ ระยะร้ายแรงของการติดเชื้อ HIV ซึ่งทำให้เสียชีวิตได้
เอชไอวีจะแพร่เชื้อหากมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอดหรือทวารหนักโดยไม่ป้องกัน เพศสัมพันธ์ทางปาก โดยเฉพาะหากหลั่งอสุจิในปากและเยื่อเมือกในช่องปากนั้นมีแผล เชื้อเอชไอวีก็จะแพร่เชื้อได้ หรือหากคุณใช้ยาเสพติด ใช้หลอดและเข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น เลือดซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสนี้เข้าสู่ร่างกาย
อาการของโรคเอชไอวี
1.ท้องเสียเรื้อรังนานกว่าหนึ่งสัปดาห์
2.ปอดอักเสบ
3.สูญเสียความทรงจำ อาการซึมเศร้าและอาการทางระบบประสาทอื่น ๆ
4.เหนื่อยผิดปกติ
5.อาการไข้ที่กลับมาเป็นซ้ำ ๆ
6.เหงื่อออกตอนกลางคืน
7.น้ำหนักลดอย่างรวดเร็ว
8.มีผื่นตามผิวหนัง ในช่องปาก จมูกและเปลือกตา
9.แผลที่ริมฝีปาก อวัยวะเพศและทวารหนัก
10.อาการบวมที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ รักแร้และขาหนีบ
ช่วงแรกบางคนจะไม่มีอาการใด ๆ แสดงให้เห็น บางคนจะมีอาการเจ็บคอ เป็นไข้ และต่อมน้ำเหลืองโต หรือเป็นผื่นคันตามร่างกาย อาการจะปรากฏประมาณหนึ่งถึงสี่สัปดาห์หลังจากติดเชื้อ เรียกว่าติดเชื้อระยะแรกมีอาการคล้าย ๆ ไข้หวัด และอาการมักจะหายหลังจากหหนึ่งสัปดาห์ แต่เชื้อยังคงทำลายภูมิคุ้มกันของร่างกายให้อ่อนแอเรื่อย ๆ และช่วงสองสามเดือนหลังจากติดเชื้อ เชื้อจะแพร่กระจายมากขึ้น ปริมาณเชื้อไวรัสจะเพิ่มสูงขึ้นการรักษา
ระยะไม่แสดงอาการ
ไม่แสดงความผิดปกติใด ๆ ดูเหมือนคนสุขภาพแข็งแรงปกติ มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย จากระยะแรกนี้เปลี่ยนเข้าสู่ระยะต่อไป ใช้เวลา 7 – 8 ปี แต่ในบางคนไม่มีอาการนานถึง 10 ปี ทำให้ผู้ติดเชื้อแพร่เชื้อเอชไอวีต่อไปยังบุคคลอื่น ๆ เนื่องจากผู้ติดเชื้อไม่ทราบว่าตนเองติดเชื้อ เพราะไม่มีแสดงอาการใด ๆ
ระยะมีอาการสัมพันธ์กับเอดส์
ระยะนี้สามารถตรวจพบผลเลือดเป็นบวก และเริ่มมีอาการผิดปกติให้เห็นได้ชัดขึ้น เช่น ต่อมน้ำเหลืองโตนานกว่า 3 เดือน มีเชื้อราเกิดขึ้นในกระพุ้งแก้ม เพดานปาก เป็นงูสวัด มีอาการเหล่านี้นานกว่า 1 เดือน โดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น มีไข้ ท้องเสีย น้ำหนักลดฮวบ เป็นต้น ระยะนี้จะอยู่นานเป็นปี ๆ ก่อนจะเป็นโรคเอดส์ระยะเต็มขั้น
ระยะเอดส์เต็มขั้น
จากเชื้อเอชไอวี ได้ฟักตัวเป็นโรคเอดส์แบบเต็มขั้น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ถูกทำลายลงไป ก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ง่าย คือโรคติดเชื้อฉวยโอกาส ซึ่งมีอยู่หลายชนิด เช่น วัณโรค จะมีอาการเป็นไข้เรื้อรัง ไอเป็นเลือด ถ้าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาการจะปวดหัวรุนแรง คอแข็ง อาเจียน
สุดท้ายแล้วผู้ที่คิดว่ามีความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อเอสไอวี ควรได้รับการตรวจสุขภาพและตรวจเลือด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ การได้รับการตรวจตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดความกังวลใจและทำให้ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง และหลังจากได้รับการตรวจแล้ว ควรตรวจซ้ำทุก ๆ 3 เดือน เพื่อตัวคุณและคนที่คุณรัก ด้วยความห่วงใยจากโอแคร์
ขอขอบคุณ:ocare.co.th
Tags:HIV