กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข แนะ สถานที่ให้บริการ สปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ ปฏิบัติตามแนวทางด้านสาธารณสุข เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานที่ให้บริการสปา อาบน้ำ ตัดขน รับเลี้ยงหรือรับฝากสัตว์ อาจเป็นแหล่งเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 กรมอนามัยได้จัดทำแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุข โดยให้เจ้าของร้านต้องปฏิบัติตั้งแต่บันทึกรายชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ วันที่และเวลาของผู้ที่นำสัตว์มารับบริการทุกราย เพื่อให้สามารถติดตามตัวได้กรณีต้องมีการสอบสวนโรค จัดให้มีที่ล้างมือพร้อมสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้พนักงาน สำหรับผู้ที่นำสัตว์มารับบริการและผู้มาติดต่อต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา จำกัดจำนวนผู้มารับบริการที่อยู่ในร้านไม่ให้หนาแน่น และทำความสะอาดภาชนะอุปกรณ์ เครื่องมือต่าง ๆ รวมทั้งกรงที่ใส่สัตว์เลี้ยงทุกครั้งก่อนและหลังรับฝากเลี้ยงด้วยน้ำยาทำความสะอาด และ ฆ่าเชื้อโรคด้วยแอลกอฮอล์ 70 เปอร์เซ็นต์ หรือโซเดียมไฮโปคลอไรท์ 0.1 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ในส่วนของภาชนะใส่อาหารสัตว์ต้องไม่มีเศษอาหารตกค้าง อุปกรณ์เครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดขนสัตว์ ผ้าคลุมตัวสัตว์ เบาะรองนอน และของเล่นสัตว์ ให้ใช้กับสัตว์ต่อตัวเพียงครั้งเดียว ไม่ใช้ซ้ำ เมื่อใช้เสร็จแล้วให้ทำความสะอาดทุกครั้ง
แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อไปว่า การทำความสะอาดภายในร้านนั้นให้ทำความสะอาดทุกวันก่อนและหลังให้บริการ จัดระยะห่างที่นั่งรอรับบริการ และระยะห่างจุดที่ให้บริการสัตว์ เช่น ที่อาบน้ำสัตว์ โต๊ะตัดขนสัตว์ 1 – 2 เมตร หรือใส่แผ่นอะคริลิกใสกั้นระหว่างจุดที่ให้บริการ ดูแลเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในสภาพดีและมีการระบายอากาศที่ดีภายในร้าน จัดให้มีถังขยะที่สะอาด สภาพดี มีฝาปิด โดยคัดแยกเป็นมูลฝอยทั่วไป เช่น ขนสัตว์ มูลสัตว์ เศษอาหาร ให้ใส่ถุงและมัดปากถุงให้แน่น มูลฝอยประเภทของมีคมที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ใบมีด เข็ม ให้ทิ้งในภาชนะที่ปิดมิดชิดและปลอดภัย และมูลฝอยหรือวัสดุที่ปนเปื้อนเลือด เช่น สำลี ผ้าก๊อซ ให้รวบรวมใส่ถุง มูลฝอยติดเชื้อ (ถุงแดง) และนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง
“ทั้งนี้ ผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย แผ่นใสครอบหน้า (Face Shield) และให้มีเสื้อคลุมที่สะอาดทุกครั้งที่ให้บริการ ต้องล้างมือด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อนและหลังให้บริการแต่ละครั้ง และสวมถุงมือยางขณะให้บริการ หลีกเลี่ยงการนำมือมาสัมผัสใบหน้า ตา ปาก จมูก โดยไม่จำเป็น ดูแลสุขภาพ ให้แข็งแรง และดูแลรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด หากมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีไข้ ไอ จาม ให้หยุดปฏิบัติงานและไปพบแพทย์ แต่หากพบว่าผู้ปฏิบัติงานในร้านเป็นผู้ป่วยยืนยันหรือมีข้อมูลบ่งชี้ว่าร้านอาจเป็นจุดแพร่เชื้อได้ ให้เจ้าของร้านหยุดให้บริการ 3 วัน ทำความสะอาดฆ่าเชื้อทันทีภายใน 24 ชั่วโมง ภายใต้การกำกับดูแลของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าวในที่สุด
ขอบคุณ สสส.