จากปัจหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้นมากมาย ผู้คนเริ่มตั้งคำถามขึ้นว่า อะไรถือต้นเหตุของปัญหา ความเครียด? การไม่ได้ออกกำลังกาย? หรือความเหนื่อยล้าทางจิตใจ? ปัจจัยทั้งหมดส่งผลกระทบกับการเสื่อมถอยของสุขภาพมนุษย์ด้วยกันทั้งนั้น แต่การบริโภคน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นก็เป็นที่ถกเถียงกันว่าเป็นตัวการหลักอีกประการหนึ่ง เพราะเพื่อที่จะเพิ่มรสชาติของสินค้าให้อร่อยขึ้น ทุกวันนี้หลายๆบริษัทจึงได้ใส่น้ำตาลเพิ่มลงไปในทุกอย่าง
หนึ่งในสินค้าเหล่านั้นคือน้ำอัดลมที่มีปริมาณน้ำตาลมากมายจนเกือบจะอยู่ในเกณฑ์ห้ามจำหน่าย เราเริ่มดื่มน้ำอัดลมกันครั้งแรกเมื่อมันถูกนำเข้ามายังตลาดในปีพ.ศ. 2428 โดยเภสัชกรที่มีชื่อว่าชาร์ลส์ เอลเดอร์สัน หรือที่เรารู้จักกันในนามของดร.เปปเปอร์ เชื่อหรือไม่ว่าแรกเริ่มเดิมทีน้ำอัดลมถูกคิดค้นมาเพื่อเป็นยาเพื่อรักษาโรคอย่างเช่น อาการอาหารไม่ย่อย,อาการอ่อนเพลีย,อาการปวดหัว, และรวมถึงโรคทางจิตเวช อย่างไรก็ตามฝั่งอุตสหกรรมได้นำน้ำอัดลมมาใช้ในทางตรงข้ามกับการรักษาผู้คนโดยสิ้นเชิงและถัดไปคุณจะได้อ่านถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากเลิกดื่มน้ำอัดลม
1.คุณจะได้สุขภาพหัวใจที่ดีขึ้น
ในปีพ.ศ.2555 งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดพบว่าการดื่มเครื่อมดื่มที่มีน้ำตาลสูงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยเมื่อปีพ.ศ.2554 ว่าหากดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเท่าไหร่ ความดันเลือดก็จะสูงมากขึ้นเท่านั้น
การลดการบริโภคน้ำอัดลมเพียง 1 แก้วต่อวันก็เพียงพอที่จะส่งผลให้ความดันเลือดและสุขภาพหัวใจดียิ่งขึ้นแล้ว
2.มันจะช่วยพัฒนาสมองของคุณ
ขณะที่หลายๆคนดื่มน้ำอัดลมเพื่อพลังงานและให้พวกเขาใช้ชีวิตผ่านการทำงานหรือการเรียนไปได้ในแต่ละวัน ผลพวงจากการบริโภคน้ำตาลปริมาณมากเกินความจำเป็นก็ส่งผลเสียมากกว่าผลดี การวิจัยหนึ่งพบว่าการบริโภคน้ำตาลเป็นประจำติดต่อกันเป็นเวลาหลายปีจะส่งผลต่อความขัดข้องในการเรียนรู้, ปัญหาทางความจำ, และการเปลี่ยนพฤติกรรมตามสิ่งแวดล้อม
งานวิจัยอื่นๆยังพบว่ามีความเกี่ยวเนื่องกันระหว่างการดื่มน้ำอัดลมและการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือโรคทางประสาทอื่นๆ การศึกษายังพบว่าหนูทดลองที่ได้รับน้ำหวานมีปริมาณคราบแบคทีเรียเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคอัลไซเมอร์
3.รอยยิ้มของคุณจะสดใสยิ่งขึ้น
การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะทำให้ฟันสกปรกและมีปัญหาทางฟันอื่นๆตามมา ในบางกรณีการดื่มน้ำอัดลมสามารถกัดกร่อนฟันได้พอๆกับการใช้ยาเสพติดโดยอ้างอิงมาจากงานวิจัยในปีพ.ศ.2556 นอกจากนี้ในการศึกษา นักวิจัยพบว่าผู้หญิงคนหนึ่งที่ดื่มน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลวันละ 2 ลิตรเป็นเวลา 3-5 ปี มีสภาพฟันที่ถูกกัดกร่อนเหมือนกับคนที่ติดยาเสพติดเมทเฟตตามีนและโคเคน
กรดซิตริกในน้ำอัดลมมีฤทธิ์กัดกร่อนชั้นเคลือบฟัน ซึ่งนำไปสู่อาการฟันผุและฟันเหลืองได้ การเลิกกินน้ำอัดลมจึงจะช่วยให้ฟันขาวขึ้นและมีสุขขภาพฟันที่แข็งแรงยิ่งขึ้น
4.ดีต่อกระเพาะปัสสาวะ
น้ำอัดลมคือตัวขับปัสสาวะ หมายความว่ามันจะทำให้คุณต้องปัสสาวะอย่างทันด่วนและบ่อยยิ่งขึ้น นอกจากนี้มันยังส่งผลให้เกิดการระคายเคืองและการติดเชื้อที่กระเพาะปัสสาวะอีกด้วย
การดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมจะช่วยให้คุณมีกระเพาะปัสสาวะที่สุขภาพดีขึ้นและช่วยขับสารพิษออกจากร่างการด้วย
5.คุณจะมีกระดูกที่แข็งแรงขึ้น
การเลิกดื่มน้ำอัดลมจะช่วยให้กระดูกของขุณแข็งแรงขึ้นและลดความเสียงจากภาวะกระดูกฝ่อ เพราะสีคาราเมลในน้ำอัดลมสีดำนั้นประกอบด้วยสารสังเคราะห์ที่ช่วยสร้างฟอสฟอรัสซึ่งจะส่งผลให้แคลเซี่ยมเคลื่อนที่ออกจากกระดูก
การเปลี่ยนจากน้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มธรรมชาติเช่นชาหรือน้ำเปล่าจะช่วยป้องกันกระดูกของคุณได้
6.สุขภาพไตของคุณจะดีขึ้น
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำอัดลมมากๆส่งผลต่อการเป็นโรคไตหรือกระทั่งภาวะไตวายทีเดียว ซึ่งน้ำอัดลมแบบไม่ใส่น้ำตาลก็ไม่ต่างกัน
นักวิจัยจากหน่วยงาน Nurses’ Health Study พบว่าผู้หญิงที่ดื่มน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลทุกวันมีศักยภาพการทำงานของไตต่ำกว่าผู้หหญิงที่ไม่กินน้ำอัดลม
7.ระบบสืบพันธุ์ของคุณจะดียิ่งขึ้น
ในขณะที่หลายๆบริษัทเลิกใช้สาร BPA ในสินค้าไปแล้ว กระป๋องน้ำอัดลมบางกระป๋องยังคงใช้มันอยู่ จากการศึกษาพบว่าสาร BPA สามารถทำให้ถึงวัยเจริญพันธุ์ก่อนกำหนด, ภาวะมีบุตรยาก ,สร้างความเสียหายถาวรแก่ระบบสืบพันธุ์
จากข้อมูลของกองทุนมะเร็งเต้านม สาร BPA สามารถพบได้มากในบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มรวมถึงการอุดฟัน มันทำการสังเคราะห์ฮอร์โมนส์เอสโตรเจนและรบกวนระบบฮอร์โมน ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรค เช่นมะเร็งเต้านม, มะเร็งต่อมลูกหมาก, ความผิดปกติในการเผาผลาญพลังงาน, รวมถึงเบาหวานทั้งสองชนิด
8.มันจะช่วยลดน้ำหนัก
น้ำอัดลมมีแคลอรี่สูงมาก – บางประเภทมีสูงถึง 700 แคลอรี่ แต่ก็จะไม่บรรเทาความหิวใดๆเพราะไม่มีคุณค่าทางสารอาหาร
การงดบริโภคโคคาโคลาแก้วใหญ่จากร้านแมคโดนอลจากมื้ออาหารในแต่ละวันจะช่วยลดไปมากว่า 200,000 แคลอรี่ หรือน้ำหนักประมาณ 60 ปอนด์ต่อปี เพราะฉะนั้นหากอยากลดน้ำหนัก การงดดื่มน้ำอัดลมจะช่วยให้คุณถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
ข้อมูลจาก https://www.crunchposts.com