ผู้ป่วยโรคกระเพาะต้องพิถีพิถันในการเลือกรับประทานอาหารมากเป็นพิเศษ เพราะอาหารบางชนิดอาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารและทำให้อาการป่วยแย่ลง จนเกิดอาการปวดท้อง ท้องอืด แสบร้อนกลางอก หรืออาหารไม่ย่อยตามมา ในขณะเดียวกัน การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะกับสุขภาพของตนเองอาจช่วยควบคุมอาการของโรคกระเพาะ และทำให้อาการป่วยทุเลาลงได้อีกด้วย
โรคกระเพาะ กับการเลือกรับประทานอาหาร
โรคกระเพาะ คือ ความผิดปกติที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุกระเพาะอาหาร ซึ่งอาจเกิดขึ้นอย่างฉับพลันหรือเรื้อรัง และมีอยู่หลายประเภทขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อโรค โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร (H. Pylori) ผู้ป่วยโรคนี้มักมีอาการไม่รุนแรง และหายเป็นปกติได้ในเวลาอันรวดเร็วหากได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง แต่โรคกระเพาะอาหารบางประเภทอาจก่อให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งตามมาได้
อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารบางชนิดอาจช่วยควบคุมอาการป่วยไม่ให้รุนแรงขึ้น หรือช่วยบรรเทาอาการป่วยได้ แต่ผู้ป่วยก็ควรรับการรักษาการเจ็บป่วยที่เป็นสาเหตุของโรคกระเพาะด้วย อย่างโรคติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร และหลีกเลี่ยงปัจจัยต้นเหตุอย่างการดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารรสเผ็ดหรืออาหารบางอย่างที่กระตุ้นให้มีอาการกำเริบ รวมทั้งควรสังเกตอาการของตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการรุนแรงหรือมีอาการป่วยเกิดขึ้นอย่างเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง ควบคู่กับปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารไปด้วย
อาหารที่ดีต่อผู้ป่วยโรคกระเพาะ
อาหารแต่ละชนิดที่คนเรารับประทานเข้าไปนั้น ส่งผลต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารอย่างโรคกระเพาะ ควรเลือกรับประทานอาหารที่ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหาร และมีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการป่วยด้วย ดังนี้
- อาหารที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เช่น พืชตระกูลถั่ว แครอท บร็อกโคลี่ ข้าวโอ๊ต แอปเปิ้ล เป็นต้น
- อาหารที่มีความเป็นกรดต่ำ หรืออาหารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง อย่างผักชนิดต่าง ๆ
- อาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น อกไก่ เนื้อปลา เป็นต้น
- อาหารที่ปรุงโดยเลือกใช้น้ำมันมะกอกและน้ำมันคาโนลาเป็นหลัก
- ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ขนมปังโฮลวีต ซีเรียล ข้าวกล้อง เป็นต้น
- เครื่องดื่มที่ไม่อัดแก๊ส และไม่มีคาเฟอีน
- อาหารที่มีโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นเชื้อจุลินทรีย์และยีสต์ในกลุ่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น กะหล่ำดอง กิมจิ ชาหมัก โยเกิร์ต เป็นต้น เนื่องจากมีงานวิจัยที่พบว่า โพรไบโอติกส์อาจช่วยป้องกันโรคติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไร ซึ่งเป็นต้นเหตุของโรคกระเพาะและการเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
นอกจากการเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร ผู้ป่วยควรปรับพฤติกรรมการบริโภคให้เหมาะสมด้วย ทั้งนี้ ไม่ควรรับประทานอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารครั้งละมาก ๆ โดยให้หันมารับประทานอาหารทีละน้อย ๆ แต่รับประทานให้บ่อยครั้งขึ้นแทน
อาหารที่ผู้ป่วยโรคกระเพาะไม่ควรรับประทาน
ร่างกายของผู้ป่วยโรคกระเพาะอาจตอบสนองต่ออาหารแต่ละชนิดแตกต่างกัน ผู้ป่วยแต่ละรายจึงควรสังเกตอาการตนเองขณะรับประทานอาหารแต่ละชนิด และหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้อาการป่วยแย่ลง ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นอาหารที่มีรสเผ็ด เปรี้ยว หรือมีฤทธิ์เป็นกรด และอาหารที่มีไขมันสูง ดังนี้
- อาหารทอด
- ผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากมะเขือเทศ อย่างซอสมะเขือเทศ หรือน้ำมะเขือเทศ
- นมสด และผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากนมสดหรือครีม
- พริกและพริกไทย ทั้งในรูปแบบพริกหรือพริกไทยสด พริกป่น พริกไทยป่น หรือซอสพริก
- เนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม หรือเบคอน เป็นต้น
- ช็อกโกแลต นมช็อกโกแลต และโกโก้ร้อน
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างชา หรือกาแฟ
- เครื่องดื่มอัดแก๊ส อย่างน้ำอัดลม หรือโซดา
- ชาเขียว ชาดำ หรือกาแฟปราศจากคาเฟอีน
- น้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำส้มหรือน้ำเกรปฟรุต
ขอขอบคุณ: pobpad.com