โรคต้อกระจก คือ ภาวะแก้วตาเสื่อม ซึ่งปรกติแก้วตาจะใส แต่แก้วตากลับขุ่น การที่แก้วตาที่ขุ่นลง มีผลให้กำลังเกิดการขัดขวางไม่ให้แสงเข้าตา การมองเห็นภาพไม่ชัด โรคต้อกระจกนี้ เป็นโรคทางตา ที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย ต้อกระจกเกิดจากอะไร และรักษาอย่างไร เรารวบรวมความรู้โรคตามาเสนอต่อท่านตามความรู้ด้านล่างแล้ว
สาเหตุของภาวะแก้วตาขุ่น หรือ โรคต้อกระจก มีหลายสาเหตุแตกต่างกันออกไปตามช่วงอายุของผู้ป่วย ในผู้ป่วยที่มีต้อกระจกโดยกำเนิด เกิดจากมารดาติดหัดเยอรมันในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ หรือบางทีเป็นกรรมพันธุ์ และ โภชนาการของเด็กไม่ดี เรียกว่าขาดสารอาหาร ในผู้ป่วยต่อกระจกในช่วงวัยรุ่น อาจเกิดจากอุบัติเหตุ ที่ถูกกระทบกระเทือนดวงตาอย่างรุนแรง ในบางครั้งต้อกระจกจะเกิดขึ้นหลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้ว 2-3 ปี ในผุ้ป่วยวัยกลางคนขึ้นไป พบว่าสาเหตุของต้อกระจกมาจาก โรคต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคที่เกิดกับดวงตา ไม่ว่าจะเป็น ม่านตาอักเสบ หรือโรคอื่นๆทางตา และการใช้ลาในกลุ่มสเตียรอยด์ เช่น ยาเพรดนิโซโลน Predisposition ซึ่งเป็นยาสำหรับรักษาโรคเรื้อรัง เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหืด โรคไต และโรคข้อ
เป็นต้อกระจกมีอาการอย่างไร คือ สายตาจะค่อยๆมัวลงทีละน้อย ไม่มีอาการปวดตา ไม่มีอาการตาแดง และสายตาจะมัวมากขึ้นเมื่ออยู่ในที่ที่มีแสงสว่างมาก อาการสายตามัวในเวลากลางวันและมองเห็นชัดในเวลากลางคืน มีฝ้าขาวบริเวณม่านตา หากเห็นว่ามีอาการลักษณะนี้ ควรพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจอาการและรักษาได้ทันท่วงที
การรักษาต้อกระจก : การรักษาต้อกระจกทำได้โดยการผ่าตัดนำเลนส์แก้วตาที่ขุ่นออกแล้วใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปแทนที่ โดยวิธีการผ่าตัดที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่
– การสลายต้อกระจกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (phacoemulsification)
การดูแลสุขภาพดวงตา
– นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
– รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
– พักสายตาเป็นระยะหากต้องใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน
– สวมแว่นกันแดดที่กรองแสงอัลตราไวโอเลต ไม่จ้องมองดวงอาทิตย์โดยตรง
– หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับดวงตา อย่าให้ดวงตาโดนกระแทก
– ตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ โดยผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปควรตรวจสุขภาพตาทุกปี
แหล่งที่มา คอลัมน์ โรคไม่ติดต่อ โรคต้อกระจก http://beezab.com/
ขอขอบคุณข้อมูล:kelangnakorn.go.th