ในการตรวจสุขภาพแต่ละปีนอกจากจะมีตัวเลขความดันว่าสูงหรือต่ำแล้ว ยังมีตัวเลขที่ควรให้ความสำคัญอีกตัวหนึ่งก็คือ คอเลสเตอรอล (Cholesterol) เพราะว่าคอเลสเตอรอลเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย จึงเป็นเหตุผลให้ร่างกายต้องสร้างขึ้นมาใช้เอง แต่สร้างมาได้แค่ 70-80% ของที่ต้องการใช้ในแต่ละวันเท่านั้น จำเป็นที่ต้องได้รับเพิ่มจากอาหาร นั่นก็คือไข่แดงและอาหารทะเล
ทุกเซลล์ในร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลได้ แต่ตับจะเป็นอวัยวะที่สร้างได้มากที่สุด คอเลสเตอรอลที่สำคัญมี 2 ตัว คือ LDL (Low-density lipoprotein) ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลว และ HDL (High-density lipoprotein) จัดว่าเป็นตัวดี เมื่อร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลชนิด LDL ก็จะถูกปล่อยไปตามกระแสเลือดเพื่อนำไปใช้ซ่อมผนังเซลล์ ซ่อมเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท ซ่อมสมอง นำไปสร้างฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนความเครียด และที่จัดว่า LDL เป็นตัวเลวก็เพราะถ้ามีมากก็จะไปอุดตันเส้นเลือดนั่นเอง
ภญ.นันทวดี พิทยาพิบูลพงศ์ กล่าวว่า คอเลสเตอรอลชนิด HDL นั้นก็ถูกปล่อยไปตามกระแสเลือดด้วย แต่ HDL นั้นจะทำหน้าที่เปรียบเสมือน กทม.หรือเทศบาล ที่จะช่วยพา LDL ที่เกาะตามผนังเส้นเลือดและจากกระแสเลือดกลับมาที่ตับเพื่อใช้ผลิตเป็นน้ำดี ใช้ย่อยไขมันโมเลกุลใหญ่ให้เล็กลง หลังจากนั้นน้ำย่อยไขมัน (Lipase) จะมาย่อยต่อ เมื่อน้ำดีหมดหน้าที่แล้วก็จะถูกขับออกจากร่างกายไป ดังนั้น HDL จึงถือว่าเป็นตัวดี จำเป็นต้องมีมากด้วย เพื่อจะได้ช่วยขับ LDL ออกจากร่างกายให้ได้มาก จะได้ไม่อุดตันเส้นเลือดนั่นเอง
HDL จะสูงได้ต้องมี 2 ปัจจัย คือ 1.ได้รับมาจากอาหาร จากไข่แดงและอาหารทะเล 2.มาจากการออกกำลังกาย เพราะจะกระตุ้นให้ตับสร้าง HDL สูงขึ้น และสร้าง LDL ต่ำ
การที่ร่างกายเรามีคอเลสเตอรอล LDL ที่เป็นตัวเลวสูงนั้นอย่าไปโทษไข่แดงและอาหารทะเล เพราะคอเลสเตอรอลนั้นเป็น Wax มันจะเหนียว เมื่อเรากินเข้าไปต้องย่อยก่อน และย่อยยาก จึงย่อยไม่หมด ส่วนหนึ่งจะถูกขับออกจากร่างกายไปพร้อมกับอุจจาระ จึงถูกดูดซึมเข้าร่างกายได้ในปริมาณพอเหมาะ
- เลือดกำเดาไหลในเด็ก สัญญาณบอกความผิดปกติเรื่องใด
- รู้สู้ COVID-19 เผยงานวิจัยผู้ป่วยโรคโควิดกับการเกิดผื่น 5 แบบ
การที่เรามีคอเลสเตอรอล LDL สูงนั้น จริงๆ แล้วเกิดจากแป้งและน้ำตาล เช่น พวกเครื่องดื่มหวานๆ กาแฟเย็น ชาเย็น น้ำปั่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ ขนมปัง ขนมเค้ก คุกกี้ ขนมหวาน พวกนี้ต่างหากที่ทำให้ LDL สูง ดูตัวอย่างได้จากผู้ที่เป็นเบาหวาน
ปัจจุบันนี้คนเป็นเบาหวานกันมากขึ้น และเป็นกันตอนอายุน้อยๆ ด้วย เพราะคนยุคนี้ดื่มเครื่องดื่มหวานๆ และทานขนมกันมากเหลือเกิน เมื่อแป้งและน้ำตาลเข้าไปในร่างกายแล้ว จะถูกย่อยเป็นน้ำตาลกลูโคส ก็จะไปกระตุ้นให้ตับอ่อนผลิตฮอร์โมน Insulin ออกมาเพื่อพาน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่เซลล์กล้ามเนื้อเพื่อเผาผลาญให้เป็นพลังงาน และการที่เรากินแป้งกับน้ำตาลกันมากก็จะไปกระตุ้นตับอ่อนมาก บ่อยเข้าตับอ่อนก็จะล้า ผลิต Insulin ออกมาได้ก็จริง แต่ไม่มีประสิทธิภาพ พาน้ำตาลเข้าเซลล์เผาผลาญเป็นพลังงานได้ไม่หมด น้ำตาลก็จะตกค้างในกระแสเลือดเกิดเบาหวานขึ้น และเมื่อตับอ่อนถูกกระตุ้นอยู่เรื่อยๆ ก็ยิ่งผลิต Insulin ที่ไม่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำตาลก็ยิ่งตกค้างในกระแสเลือดเพิ่มขึ้น
ดังนั้น คนที่เป็นเบาหวานนานเข้าจึงมักมีน้ำตาลในเลือดสูงและ Insulin ก็ยังสูงด้วย และการที่มี Insulin สูงนี่แหละที่เป็นตัวปัญหา มันจะไปกระตุ้นให้ตับสร้างคอเลสเตอรอล LDL ที่เป็นตัวเลวสูงขึ้น แต่ HDL ที่เป็นตัวดีกลับต่ำลง ดังนั้นคนที่เป็นเบาหวานจึงมักมีคอเลสเตอรอล LDL สูงตามมาด้วยเสมออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การที่จะลดคอเลสเตอรอลนั้นจริงๆ แล้วควรลดการกินแป้งและน้ำตาลลง และเพิ่มโปรตีนจากเนื้อสัตว์และไข่ เพราะโปรตีนจะช่วยให้แป้งและน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆ ตับอ่อนก็จะถูกกระตุ้นน้อยลง ก็จะผลิต Insulin มีประสิทธิภาพในปริมาณที่พอเหมาะ เมื่อ Insulin ลดลง LDL ก็ลดลงมาโดยอัตโนมัติ จึงอาจพูดได้ว่าการกินไข่ช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL และเพิ่ม HDL ได้ จึงควรกลับมากินไข่วันละ 1-2 ฟองได้เลย
การจะลดคอเลสเตอรอล LDL นั้นไม่ยาก ก็แค่เปลี่ยนอุปนิสัยในการกินอาหาร ให้ลดแป้งและน้ำตาลลง ไม่ควรกินเครื่องดื่มหวานๆ แม้แต่น้ำผลไม้คั้นเองก็ไม่ควรดื่ม ให้กินผลไม้พร้อมกาก และต้องเพิ่มโปรตีน (เนื้อสัตว์ ไข่) เท่านี้ก็จะลดคอเลสเตอรอล LDL ได้แล้ว โดยไม่ต้องพึ่งยา
แล้วก็ไม่ควรใช้ยาลดคอเลสเตอรอล เพราะตับทำหน้าที่ผลิตคอเลสเตอรอล ยานั้นนอกจากกดตับให้สร้างคอเลสเตอรอลลดลงแล้ว ยายังจะไปกดการทำงานของตับเกือบทุกอย่าง ตับทำหน้าที่หลายอย่าง แต่หน้าที่หลักคือเผาผลาญพลังงานและขับสารพิษ ก็จะทำให้การเผาผลาญลดลง และสารพิษมีโอกาสตกค้างในร่างกายและตับมากขึ้น โอกาสเป็นมะเร็งก็จะมากขึ้นด้วย
การกินไข่อาจทำให้ค่ารวมคือคอเลสเตอรอลทั้งหมดเพิ่มขึ้น แต่จะเป็นค่า HDL ต่างหากที่เพิ่มขึ้นมา ดังนั้นอย่าตรวจหาเฉพาะค่าคอเลสเตอรอลทั้งหมดอย่างเดียว ต้องตรวจทั้ง LDL และ HDL ด้วย และให้ดูอัตราส่วนของคอเลสเตอรอล LDL-HDL ควรน้อยกว่า 3 หรืออัตราส่วนของ HDL ต้องน้อยกว่า 5 ถือว่าเป็นปกติ ไม่อันตรายเลย
ขอขอบคุณที่มา : posttoday.com