ถ้าพูดถึงกะทิ คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงแต่ข้อเสียของกะทิ เช่น ไขมัน คอเลสเตอรอล อันเป็น สาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ อาทิ โรคหัวใจ และคอเลสเตอรอล ในเลือดสูงรวมไปถึงโรคอ้วน ซึ่งความ จริงแล้ว การทานกะทิไม่ได้ทำร้ายสุขภาพอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ มีงานวิจัยใหม่ๆมากมาย ชี้ให้เห็นข้อดีในการทาน กะทิว่า “กะทิ” มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายจึงทำให้เทรนด์การทานกะทิกลับ มาเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ทั้งใช้ทำเครื่องดื่ม ปรุงอาหารคาว-หวาน รวมไป ถึงการทำเบเกอรี่ ทดแทนการ ใช้นมวัวในเมนูต่างๆ กะทิเป็นสารอาหารกลุ่มไขมันที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต ให้พลังงานและช่วยในการดูดซึม วิตามิน A, D, E และ K เป็นส่วนประกอบของเซลล์และเนื้อเยื่อที่ห่อหุ้มกระดูกและอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ในกะทิยังมีกรดลอริก (Lauric acid) เช่นเดียวกับ ในน้ำนมแม่ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิต้านให้แก่ร่างกาย สามารถช่วยต่อต้านเชื้อไวรัส และป้องกันเชื้อแบคทีเรีย เชื้อจุลินทรีย์ และต่อต้านเชื้อราภายในร่างกาย นอกจากนี้กะทิยังอุดมไปด้วยสารอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ ทั้งโพแทสเซียม แคลเซียม และคลอไรด์ไขมัน อิ่มตัว มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วย ชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
กะทิ กินแล้วอ้วนไหม??
ก่อนอื่นเลยเรามาทำความเข้าใจกระบวนการย่อยและการดูดซึมของกะทิกันก่อนค่ะ เนื่องจากว่ามะพร้าว เป็นพืช จึงทำให้กะทิไม่มีโคเรสเตอรอล อีกทั้งกะทิประกอบด้วยไขมันอิ่มตัว ขนาดปานกลาง (MCFAs) ซึ่งถูกย่อยได้ง่าย และดูดซึมได้เร็ว สามารถนำไปเผาผลาญเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ไม่เก็บสะสม เป็นไขมันส่วนเกิน นอกจากนี้ “กะทิ” เมื่อโดนความร้อนแล้วจะไม่ทำให้เกิดไขมันทรานส์ ไม่เกิดอนุมูล อิสระ ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่อย่างไรก็ดี การทานกะทิให้เกิดประโยชน์ ต้องทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะอาหารทุกอย่าง หากทานเกินความจำเป็น และความต้องการของร่างกาย ก็จะเกิดพลังงาน สะสมส่วนเกินในรูปแบบของ ไขมัน ทำให้เกิดโรคอ้วนตามมาได้ และเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงยิ่งขึ้น ควรออกกำลังกายเป็น ประจำสม่ำเสมอ
ขอบคุณที่มาจาก : aroyd.co.th