หลังผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี กินแบบนี้สิ ฟื้นตัวเร็ว

แบ่งกินมื้อเล็กๆ

เพิ่มจำนวนมื้อ แต่ลดปริมาณลงในแต่ละมื้อ จากที่คนทั่วไปกินวันละ 3 มื้อ ก็เปลี่ยนเป็นกินวันละ 5-6 มื้อ แต่กินในแต่ละมื้อให้น้อยลงเหลือสัก 25-50% และไม่ควรกินอาหารหนักๆ หลัง 1 ทุ่ม เพราะเป็นเวลาที่ระบบการย่อยอาหารทำงานน้อยลงแล้ว อาจทำให้ท้องอืด และเกิดการสะสมของไขมันจากการเผาผลาญไม่หมด

เน้นอาหารย่อยง่าย

เน้นกินอาหารอ่อนๆ เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น (กินไข่แดงให้น้อยลง) เนื้อปลา หากกินเนื้อไก่ควรต้มหรือปรุงให้เปื่อย แกงจืดเต้าหู้ไข่ แกงจืดผักต้มเปื่อยๆ ไม่ควรกินเนื้อหมู เนื้อวัว ผักดิบ ผลไม้ดิบ เพราะย่อยยาก รวมถึงอาหารสำเร็จรูปและอาหารแปรรูปต่างๆ เนื่องจากส่วนใหญ่มีโซเดียมและไขมันสูง

ไขมันกินอย่างไร?

ควรงดการกินอาหารมันๆ ประเภททอด ผัด หันมาใช้วิธีต้ม ตุ๋น  ส่วนวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารควรเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน แต่ก็ใช่ว่าจะต้องงดการกินไขมันทั้งหมด เพราะไขมันก็ยังเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพียงแต่ต้องเลือกกินไขมันดี เช่น ไขมันจากปลาที่มีโอเมก้า3 ปรุงอาหารด้วยน้ำมันพืชที่เป็นไขมันไม่อิ่มตัว เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า น้ำมันถั่วหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทางตะวัน น้ำมันดอกคำฝอย

ไขมันที่ควรงดคือ ไขมันจากสัตว์เนื้อแดง ไขมันที่ผ่านความร้อนสูง ไขมันทรานส์ และน้ำมันพืชที่มีการเติมไฮโดรเจนลงไป และไม่ใช้น้ำมันพืชชนิดไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว รวมถึงไขมันจากนม เนย เนยเทียม ไข่แดง และกะทิด้วย

ผัก-ผลไม้ที่ควรกิน

เลือกกินผักที่ช่วยย่อยอาหารได้ เช่น แตงกวา กระเจี๊ยบ หอมแดง ไม่แนะนำให้กินผักสดมากนัก หากจะกินควรเลือกเป็นผักออร์แกนิกและเคี้ยวให้ละเอียด เพราะผักสดจะย่อยยาก ถ้าชอบกินสลัดผักควรใช้น้ำสลัดเป็นน้ำส้มสายชูหมักใส่กระเทียมสด เลือกเครื่องดื่มเป็น น้ำสะอาด น้ำผัก น้ำแอปเปิ้ล น้ำฝรั่ง โดยเน้นที่คั้นสดๆ หรือจะกินมะละกอสุก อะโวคาโด ลูกพรุน เบอร์รี่ต่างๆ ก็ได้ โดยควรระวังไม่ทานผลไม้ที่ให้น้ำตาลสูงเกินไป ของว่าง แนะนำเป็นถั่วเขียวต้มน้ำตาลจะช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมน้ำหนักและอุดมไปด้วยโปรตีน แต่ไม่ควรกินหวานเกินไป

นอกจากจะดูแลเรื่องอาหารการกินแล้ว หลังผ่าตัดมาใหม่ๆ ไม่ควรเคร่งเครียดกับการทำงาน ยกของหนัก เดินทางไกล หรือทำอะไรผาดโผน ควรรอให้แผลหายสนิทผสานกันดีเสียก่อน เพราะหากเกิดแผลปริแตกอาจเกิดอันตรายและทำให้การรักษายากขึ้นไปอีก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์ศัลยกรรม รพ.พญาไท 1 โทร.02-201-4600 ต่อ 2185, 2285

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : phyathai.com