ภูมิคุ้มกัน

ลมพิษ

Views

คนที่เป็นลมพิษ จะมีอาการขึ้นเป็นปื้นนูนแดง มีขนาดและรูปร่างต่างๆ กัน เช่น วงกลม วงรี วงหยัก เนื้อภายในวงจะนูนและสีซีดกว่าขอบเล็กน้อย ทำให้เห็นเป็นขอบแดงๆ คล้ายเอาลิปสติกผู้หญิงมาขีดเป็นวงไว้ คนไข้จะรู้สึกคันมาก พอเกาตรงไหนก็จะมีผื่นแดงขึ้นตรงนั้น อาจรู้สึกร้อนผ่าวตามผิวกาย ลมพิษอาจเกิดขึ้นที่หน้า แขน ขา ลำตัว หรือส่วนอื่นๆ ของร่างกายก็ได้ มักขึ้นกระจายทั่วไป อาการมักจะเกิดขึ้นหลังสัมผัสสารแพ้ (เช่น อาหาร ยา สารเคมี ฝุ่น ละอองเกสร ฯลฯ) ภายใน 15-30 นาที และจะเป็นอยู่ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก็จะยุบหายไปเอง แต่อาจเกิดขึ้นใหม่ในตำแหน่งเดิมหรือตำแหน่งใหม่ได้อีกภายในวันเดียวกันหรือในวันต่อมาก็ได้ บางคนอาจขึ้นติดต่อกันเป็นวันๆก็ได้ แต่ส่วนมากมักจะยุบหายได้เองภายใน 1-7 วัน ลมพิษจะมีลักษณะอาการจำเพาะ เป็นที่รู้จักของชาวบ้านทั่วไป จึงมักไม่ค่อยมีปัญหาในการวินิจฉัยโรคนี้

1. ลมพิษ (urticaria) ถือเป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีการสร้างสารแพ้ดังที่เรียกว่า “ฮิสตามีน”  (histamine) ออกมาจากเซลล์ในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว เกิดเป็นผื่นนูนแดงและคันขึ้นตามผิวกาย

2. มักมีสาเหตุจากการแพ้ อาหาร (เช่น อาหารทะเล เนื้อสัตว์ อาหารใส่สี อาหารกระป๋อง) แอลกอฮอล์ (เช่น เหล้า เบียร์) ยา (เช่น แอสไพริน เพนิซิลลิน ซัลฟา) ฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ นุ่น (ที่นอน หมอน) พิษแมลง (เช่น ผึ้ง มด ยุง) สารเคมี (เครื่องสำอาง สเปรย์ สารฆ่าแมลง) เป็นต้น บางคนอาจแพ้เหงื่อ แพ้แดด ความร้อน หรือความเย็น

3. โดยทั่วไปมักจะเป็นอยู่เพียงไม่กี่วันก็มักจะหายได้ แต่บางคนอาจเป็นอยู่ทุกวัน ถ้าหากเป็นลมพิษทุกวันติดต่อกันนานเกิน 2 เดือน ก็เรียกว่า “ลมพิษเรื้อรัง” ซึ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ส่วนน้อยอาจพบว่า มีสาเหตุจากการแพ้สิ่งหนึ่งสิ่งใดดังกล่าวข้างต้น บางคนอาจพบร่วมกับโรคติดเชื้อเรื้อรัง เช่น โรคพยาธิลำไส้ ฟันผุ ไซนัสอักเสบ หูน้ำหนวก เป็นต้น บางคนอาจเกิดร่วมกับโรคร้าย เช่น มะเร็ง หรือโรคภูมิต้านทานตัวเอง (เช่น เอสแอลอี) ขอย้ำว่าเป็นสาเหตุที่พบได้น้อยมาก แต่อย่างไรก็ตาม ในแง่ปฏิบัติ คนที่เป็นลมพิษเรื้อรังนานเกิน 2 เดือน ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ ควรให้แพทย์ตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด

4. เนื่องจากลมพิษเป็นโรคในกลุ่มโรคภูมิแพ้ (allergic disorders) คนไข้จึงอาจเป็นๆ หายๆได้บ่อยเมื่อสัมผัสถูกสารแพ้ นอกจากนี้ยังอาจพบว่า มีญาติพี่น้องเป็นโรคภูมิแพ้ (เช่น ลมพิษ ผื่นคัน คันตา หวัด แพ้อากาศ โรคหืด) ชนิดใดชนิดหนึ่งร่วมด้วยก็ได้ เพราะโรคภูมิแพ้สามารถถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ได้

5. โรคนี้เกี่ยวข้องกับความแปรปรวนของระบบภูมิต้านทาน (ภูมิคุ้มกัน) ซึ่งเกิดภูมิไวต่อสิ่งแวดล้อมและสารต่างๆ รวมทั้งภาวะเครียดทางจิตใจก็มีผลต่อการเกิดลมพิษได้เพราะทำให้ระบบภูมิต้านทานแปรปรวนได้

6. ลมพิษจัดว่าเป็นโรคที่พบบ่อยในคนทุกเพศทุกวัย และไม่มีอันตรายร้ายแรง แต่บ่งชี้ว่าเป็นคนที่จะแพ้อะไรง่าย และต้องระมัดระวังในการใช้ยา เพราะอาจเกิดอาการแพ้ยาซึ่งอาจมีอันตรายได้ คนที่เป็นลมพิษอยู่บ่อยๆทุกครั้งที่หาหมอ ต้องแจ้งให้หมอทราบ เพื่อจะได้ระวังการใช้ยา

ข้อมูลจาก : www.thaihealth.or.th

ภาพ หมอชาวบ้าน

Leave a Reply